หน้าแรกเข้าสู่ระบบเพื่อให้ความ
เห็นหรือสร้าง Blog ของคุณค้นหาตามเงื่อนไขDownload คู่มือการใช้งานติดต่อเรา

  เรื่อง การจัดการดินและน้ำหลังน้ำท่วมในสวนผลไม้  
  สร้างโดย : savangjt  
  สร้างเมื่อ : 4 ธันวาคม 2555   เวลา 15:37 น.   แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 4 ธันวาคม 2555   เวลา 15:37 น.      
  หมวดหมู่ : ด้านการจัดการทรัพยากรดิน  จำนวนผู้เข้าชม : 3067  
     
   
     
            
ผลเสียหายที่เกิดแก่ไม้ผลที่ถูกน้ำท่วมขัง
1.ถ้าน้ำท่วมนาน ๆ ไม้ผลบางชนิดอาจจะล้มได้
2.น้ำท่วมทำให้ดินขาดการระบายอากาศทำให้รากไม้ผลขาดออกซิเจน รากพืชจำเป็นต้องใช้ในการหายใจและเป็นที่สะสมของคาร์บอนไดออกไซด์
3.ขณะน้ำท่วมอินทรียวัตถุในดิน เศษพืชและสัตว์ต่าง ๆ จะถูกจุลินทรีย์ย่อยสลายโดยกระบวนการไม่ใช้ออกซิเจน ทำให้เกิดก๊าซพิษที่อันตรายต่อรากไม้ผล
4.ขณะน้ำท่วมประสิทธิภาพการดูดน้ำ และแร่ธาตุต่าง ๆ ของไม้ผลจะลดลง ทำให้ต้นไม้ขาดน้ำลาตุอาหารพืช
5.ขณะน้ำท่วมรากพืช ลำต้นของไม้ผลจะอ่อนแอ ง่ายต่อการที่โรคและแมลงจะเข้าทำลาย

วิธีลดความเสียหายของไม้ผลจากน้ำท่วม
1.ห้ามเข้าไปเหยียบย่ำใต้ต้นไม้ผล เพราะจะทำให้รากขาดและอาจทำให้รากเน่าได้ง่าย
2.กรณีที่ไม้ผลจะล้มต้องทำการค้ำยันไม้ผลไว้ก่อน ต้องใช้ไม้ยาว ๆ โดยหลีกเลี่ยงการเข้าไปเหยียบย่ำใต้ต้นไม้
3.ทำการระบายน้ำออกจากโคนต้นให้หมดเป็นการเร่งด่วน
- ทำร่องน้ำระหว่างแถวไม้ผลให้ลึกอย่างน้อย 1 ฟุต เหมาะสมที่สุด คือ 50 ซม. ถ้าในขณะนั้นดินเป็นเลน ให้ใช้ไหผูกเชือกแล้วลอกให้เป็นรอยลึกระหว่างแถว สามารถใช้เป็นทางระบายน้ำได้
- เอาไม้แหวกดินให้เป็นร่องเล็ก ๆ ที่บริเวณโคนต้นให้น้ำไหลลงสู่ทางระบายน้ำที่สร้างขึ้นมา
4.ใช้พลั่วดึงเศษพืชและสัตว์ต่าง ๆ ที่ดินเลนทับถมออกให้หมด
5.ในกรณีทีมีไม้ไผ่ ใช้ไม้ไผ่เจาะรูปักไว้ใต้โคนต้นเพื่อระบายความร้อน และก๊าซพิษออกจากโคนต้นขณะน้ำท่วมขังและดินแฉะ
6.เมื่อดินเริ่มแห้ง ทำการตัดแต่งกิ่ง โดยเอาใบแก่และกิ่งที่อยู่ระหว่างทรงพุ่มที่ใบไม้ได้รับแสงแดดออก เพราะใบพวกนี้ปรุงอาหารไม่ได้หรือได้น้อยแต่กินอาหารมาก
7.ทำการให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ใส่ในร่องที่ขุดดินขึ้นรอบ ๆ ทรงพุ่ม ความกว้างของร่องประมาณ 15 ซม. ลึกประมาณ 15 .ซม. หรือใส่ที่โคนต้นในกรณีที่ต้นไมยังมีขนาดเล็ก
8.ให้น้ำรอบ ๆ โคนต้นในกรณีที่ดินแห้ง
- ในกรณีที่เป็นที่ต่ำ ให้ยกขอบแปลงเป็นคันดินให้สูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมไม่ต่ำกว่า 30 ซม. โดยทำการขุดคูน้ำรอบ ๆ แปลง แล้วนำดินจากการขุดคุน้ำมาปั้นเป็นคันดินรอบ ๆ แปลง ขอบคูน้ำให้ปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของดินและกรองตะกอนดินไม่ให้ไหลลงร่องน้ำ
- นำดินที่ได้จากการขุดคูน้ำมาถมเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่เรียก คูยกร่องสวน
- ควรขุดบ่อหรือสระน้ำไว้ในพื้นที่เพื่อให้ระบายน้ำเมื่อฝนตกชุก และนำไปใช้เมื่อฝนทิ้งช่วง
- ถ้าพื้นที่เป็นดินลูกรัง หรือดินเหมืองแร่เก่า หรือพื้นที่ดินทรายหรือดินแฉะ ให้ใช้วงบ่อในการปลูกไม้ผล

          
ข้อมูล : กลุ่มวิจัยและพัฒนาการอนุรักษ์ดินและน้ำพื้นที่สูง สำนักวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน
ที่มา : http://www.ldd.go.th/menu_Dataonline/G4/G4_04.pdf
 
     
     
  คำสำคัญ (Keyword) :  
     
 
Rating : 4.20
 
     
 
ความเห็นที่ 1
 บทความน่าสนใจดีมากค่ะ ขอบคุณ
โดย Nutnicha (20 มกราคม 2556 16:33 น.)

ความเห็นที่ 2
 อยากให้เพิ่มภาพประกอบเป็นสภาพพืชหลังน้ำลดก็ดีค่ะ
โดย Kanokwan (20 มกราคม 2556 18:32 น.)

ความเห็นที่ 3
 เหมาะกับสถานการณ์เตรียมรับน้ำมากค่ะ
โดย Nitchapn (20 มกราคม 2556 21:47 น.)

ความเห็นที่ 4
 ไม่ทราบว่ามีการจำแนกไหมคะ ว่าไม้ผลแต่ละชนิดควรดูแลยังไง เพื่อให้เสียหายน้อยที่สุด
โดย Nitchapn (20 มกราคม 2556 21:48 น.)

 
     
  ต้อง Login ก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้  
  เข้าหน้าหลักเพื่อสร้างบล็อกของคุณ (ต้อง Log In เข้าสู่ระบบก่อน)